โครงการบรรยายวิชาการ เรื่อง Bone Management Series for Dental Implants
24 กุมภาพันธ์ 68 @ 08:30 น. - 25 มีนาคม 68 @ 18:00 น.
โดย cedent kku
746 ครั้ง
24 กุมภาพันธ์ 68 @ 08:30 น. - 25 มีนาคม 68 @ 18:00 น.
โดย cedent kku
746 ครั้ง
การประชุมวิชาการ > โครงการบรรยายวิชาการ เรื่อง Bone Management Series for Dental Implants
***กรุณาสมัครสมาชิกก่อนลงทะเบียนงานประชุม***
ดำเนินการเพียงครั้งเดียวสามารถใช้ Login เข้าสู่ระบบในเว็บไซต์เพื่อลงทะเบียนได้ทุกงานประชุม
หัวข้อที่เปิดประชุม
-
โครงการบรรยายวิชาการ เรื่อง Bone Management Series for Dental Implants (บรรยาย + workshop)ทันตแพทย์ทั่วไปเริ่ม 24 ก.พ. 68 @ 08:30 น.ถึง 25 มี.ค. 68 @ 18:00 น.
-
โครงการบรรยายวิชาการ เรื่อง Bone Management Series for Dental Implants (บรรยาย + สังเกตการณ์)ทันตแพทย์ทั่วไปเริ่ม 24 ก.พ. 68 @ 08:30 น.ถึง 25 มี.ค. 68 @ 18:00 น.
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
โครงการบรรยายวิชาการ เรื่อง Bone Management Series for Dental Implants
ปีงบประมาณ 2568 สาขาวิชาศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล
คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
1. หลักการและเหตุผล
ปัญหาหลักของสภาวะสุขภาพช่องปากโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ คือ การสูญเสียฟันและมีฟันใช้งานน้อยจนต้องใส่ฟันเทียม ซึ่งในปัจจุบันการใส่รากฟันเทียมเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติไป และต้องการใส่ฟันทดแทนที่แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้เหมือนฟันปกติ แต่หนึ่งในเงื่อนไขสำคัญในการทำรากฟันเทียม คือ ต้องมีสุขภาพช่องปากที่ดีและมีกระดูกเพียงพอสำหรับการใส่รากฟันเทียม การปลูกกระดูกทดแทนจึงมักเป็นวิธีการรักษาร่วมกับการใส่รากฟันเทียม ซึ่งการผ่าตัดปลูกกระดูกสามารถพิจารณาทำก่อนการใส่รากฟันเทียมหรือผ่าตัดร่วมกับการใส่รากฟันเทียมหรือจะทำการผ่าตัดเพิ่มเติมหลังการใส่รากฟันเทียมไปแล้ว โดยการผ่าตัดปลูกกระดูกทดแทนมีเทคนิคในการปลูกกระดูกหลายวิธี อาทิเช่น ridge preservation, guided bone regeneration, sinus lift, ridge splitting เป็นต้น รวมทั้งเทคโนโลยีในปัจจุบันชนิดของกระดูกที่ใช้ในการปลูกกระดูกทดแทนมีหลายชนิดให้พิจารณาเลือกใช้ในการผ่าตัดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการจัดการผ่าตัดปลูกกระดูกและการเลือกชนิดกระดูกอย่างเหมาะสมจึงมีความสำคัญต่อความสำเร็จของการรักษา
บทบาทของทันตแพทย์กับการปลูกกระดูกทดแทนนั้นสามารถทำได้ตั้งแต่การประเมินผู้ป่วยเบื้องต้น แนะนำแนวทางการรักษา และส่งปรึกษาหรือแม้กระทั่งทำการผ่าตัดปลูกกระดูกทดแทนเพื่อเตรียมสำหรับการใส่รากเทียม ภายหลังการบรรยายวิชาการในครั้งนี้ทันตแพทย์ที่เข้าร่วมการประชุมจะได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประเมินผู้ป่วย การตรวจ และการรักษาผู้ป่วยที่มีสภาวะกระดูกไม่เพียงพอและเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการผ่าตัดปลูกกระดูกทดแทนมากขึ้น เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ดูแลผู้ป่วยให้เกิดประโยชน์และความปลอดภัยสูงสุด รวมไปถึงสามารถพิจารณาส่งต่อผู้ป่วยเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไป
2. วัตถุประสงค์
- เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรม ได้รับความรู้พื้นฐานที่ครบถ้วนในการผ่าตัดปลูกกระดูกทดแทนสำหรับใส่รากฟันเทียม
- เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้เกี่ยวกับการตรวจ ประเมินผู้ป่วยก่อนการรักษา การเตรียมผู้ป่วย และเทคนิคในการผ่าตัดเกี่ยวกับปลูกกระดูกทดแทนสำหรับใส่รากฟันเทียม
- เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนให้การรักษาผู้ป่วย รวมไปถึงพิจารณาส่งต่อผู้ป่วยเพื่อรับการรักษากับผู้เชี่ยวชาญ
3. ผู้รับผิดชอบโครงการ
คณาจารย์และบุคลากรสาขาวิชาศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล
4. กลุ่มเป้าหมาย
ทันตแพทย์ทั่วไป จำนวนไม่เกิน 50 คน
5. วิทยากร (ภายใน)
คณาจารย์สาขาวิชาศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล
6. ผู้เข้าร่วมประชุม (กลุ่มเป้าหมาย)
ทันตแพทย์ทั่วไป
- แบบออนไซต์บรรยายและ workshop 20 คน
- แบบออนไซต์บรรยายและสังเกตการณ์ 30 คน
7. วันและเวลาดำเนินการสถานที่ดำเนินโครงการ
- วันจัดประชุม : วันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2568 และ วันที่ 24-25 มีนาคม 2568 (จัดประชุมเดือนละ 2 วัน)
- เวลาจัดประชุม : 8.30 – 17.30 น.
รวมเวลาดำเนินโครงการ 4 วัน ณ ห้อง M3 Science Park มหาวิทยาลัยขอนแก่น
8. สถานที่ดำเนินโครงการ
ห้อง M3 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ (Science Park) มหาวิทยาลัยขอนแก่น
9. รูปแบบการดำเนินโครงการ
- แบบออนไซต์ บรรยาย, workshop และสังเกตการณ์
10. การประเมินผลโครงการ
แบบสอบถามความคิดเห็น
11. ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- ผู้เข้ารับการอบรมมีความมั่นใจมากขึ้นในการให้การรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะกระดูกไม่เพียงพอสำหรับใส่รากฟันเทียม รวมไปถึงการรักษาเบื้องต้น และส่งต่อได้อย่างเหมาะสม
- ได้เผยแพร่ชื่อเสียงทางด้านวิชาการของสาขาวิชาศัลยศาสตร์ช่องปากและกระดูกขากรรไกร มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย
- ส่งเสริมการทำงานร่วมกันเป็นทีม ทำให้เกิดความรักและสามัคคีกันระหว่างบุคลากรในสาขาวิชาฯ